ทฤษฎีไร้ระเบียบคือการให้นิยามถึงการทุกๆการเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งย่อมเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อก้าวไปสู่ยุคใหม่ทั้งแบบนุ่มนวลหรือแบบหักดิบ...ก็ตาม
1. ระเบียบเดิมที่เคยใหม่ในครั้งอดีตที่ผ่านมาถึงกาลเวลาผ่านไปก็ต้องชำระใหม่เพราะโลกเราหมุนเร็วขึ้นทุกวันในทุกวัน
2. มีการทำงานเเละดำเนินการไปเรื่อยๆอย่างราบเรียบจนถึงเหตุการณ์ที่ต้องเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ใหม่กว่า (ที่มนุษย์ทึกทักเอาว่าของใหม่จะต้องดีกว่าของเก่า ซึ่งเป็นแนวคิดที่ถูกใช้มาจนทุกวันนี้)
3. นำมาสู่ความไร้ระเบียบเเละไปสู่ความโกลาหล ในท้ายที่สุดเพราะไม่ว่ามนุษย์จะเข้ามาจัดการกับสิ่งใดก็ตามดูเเล้วทุกสิ่งอย่างยิ่งจะมีความยุ่งเหยิงเเละตามมาด้วยความวุ่นวายไม่จบสิ้นเพราะมนุษย์ไร้ซึ่งความพอใจเเละควาามพอดีของตน นั่นก็คือ ความโลภนั่นเองที่เป็นชนวนก่อให้เกิดความวุ่นวาย
4. ทางเลือกหรือทางที่มีให้เลือก จากการบังคับของผู้มีอำนาจ จากคำกล่าวที่ว่าประวัติศาสตร์มักจะถูกเขียน(ใหม่)โดยผู้ชนะดูจะไม่เป็นคำพูดที่เกินจริงเกินไปนัก เพราะผู้ชนะย่อมเป็นผู้สร้างกฏระเบียบต่างๆไว้เพื่อบังคับผู้ใต้อำนาจนั่นเอง (ในกรณีี้นี้ถ้าผู้นำดีมีจริยธรรม คุณธรรม กฏระเบียบที่นำมาใช้ก็ไม่น่าจะสร้างหรือก่อความวุ่นวายให้กับสังคมได้นัก)
5. การจัดตั้งระเบียบใหม่ ก็คือการเปลี่ยนถ่ายจากสิ่งเก่าสู่สิ่งใหม่ อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลง ปรับตัว (Adaptation) คือต้องมีช่วงเปลี่ยนผ่านไปก่อนนั้นคือ ช่วงของ
Chaos หรือภาวะไร้ระเรียบเกิดขึ้นก่อนเสมออาจมีการต่อสู้กันระหว่างระบบเก่ากับ ระบบใหม่ช่วงชิงความชนะกันจนในที่สุดสิ่งที่ล้าหลังกว่าไม่มีประสิทธิภาพก็ต้องล้มหายตายจากไปเปิดทางให้สิ่งใหม่ที่ดีกว่าก็เข้ามาแทนที่แบบหักดิบหรือการเปลี่ยนแปลงแบบเปลี่ยนถ่ายอย่างนุ่มนวลหรือใช้ระยะเวลาที่นานกว่าแต่ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอนเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตามทีย่อมต้องการเข้ามาปรับเปลี่ยนความเป็นอยู่ในรูปแบบเก่ามาก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่เเล้วนั่นคือเป้าหมายของระเบียบของการเปลี่ยนแปลงเพราะเมื่อมีการนำกระทำใช้ก็ต้องมีฝ่ายถูกกระทำหรือถูกใช้บังคับ นั่นเอง
6. ระเบียบใหม่ (ซึ่งจะกลายเป็นระเบียบเก่าในเวลาต่อมา) เป็นการนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบเเละเริ่มมีผลต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อมในขั้นนี้จะเริ่มมี Effect จากสิ่งแวดล้อมเป็นตัววัดค่า หรือเป็นตัวชี้วัดถึงสิ่งที่นำมาใช้ว่า "ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเก่า" เเละสมควรต้องมีการปรับปรุงหรือไม่/อย่างไร/เพราะอะไรซึ่งต้องเป็นเหตุเป็นผลที่มีความสอดคล้องกันอย่างมีนัยทางเหตุผล
7. ระเบียบเริ่มสั่นคลอน นำมาสู่ความไร้ระเบียบอย่างแท้จริง (เข้าสู่วงจรเดิมจากขั้นตอนที่ 1-3 ต่อๆไปเป็นวัฏจักรของทุกสรรพสิ่งในสากลโลก) เป็นขั้นตอนที่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายเเละอาจจะเป็นขั้นตอนเริ่มต้นสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพราะในขั้นตอนนี้เป็นการชี้ขาดจากการเปลี่ยนแปลงในขั้นที่ผ่านมาว่าุถึงเวลาเเล้วหรือยังที่เราจะต้องทำการปรับปรุงสิ่งที่มีปัญหาไปสุ่การจัดตั้งระเีบียบตัวใหม่เพื่อปัญหาที่ต้องการการแก้ไข ในขั้นนี้ถ้าเป็นกรณีทางสังคมจะต้องมีการนำข้อเสนอเเนะจากสังคมมาแก้ไข สู่สิ่งที่ดีกว่าเข้าไปในสังคมเเทน โดยมีตัวชี้วัดคือ "ค่าของความสุขของประชาชนในสังคม"เป็นตัวชี้วัด อาจจะกล่าวได้ว่าขั้นตอนนี้สมควรจะใช้ "ทฤษฎีนโยบายสาธารณะ" ที่จะมีการสะท้อน Feed back เสียงของประชาชนเป็นตัวขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อผู้คนสังคมต้องการถึงการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างจึงจะต้องมีผู้รวบรวมปัญหาเหล่านั้นมาแก้ไข เพื่อประโยชน์สุขของสังคมให้บังเกิดขึ้น นั่นเอง
.......................................
ติดต่อสอบถามได้ที่
Line ID
"Pickpatiparn" Tel 093-2629000
Email
"Pmresearch2011@gmail.com"
........................................
รับสมัครนักวิจัยอิสระเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ...ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ติดต่อได้ที่ 082 - 5765579 ปฏิภาณ หรือ ID Line... pickpatiparn หรือทาง Blogger
.........................................