ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2017

public policy หรือ ทฤษฎีนโยบายสาธารณะ (Thomas R. Dye, โธมัส อาร์.ดาย)

ทฤษฎีนโยบายสาธารณะ หรือ P ublic policy มีความหมายโดยรวมที่กล่าวถึงแนวทางของกิจกรรม โครงการหรือกฏเกณฑ์ที่ใช้เป็นรูปแบบข้อบังคับเพื่อให้ผู้คนในสังคมปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน 1.ตัวแบบสถาบัน ( Institutional Model)       โธมัส อาร์.ดาย มองว่านโยบายเป็นผลผลิตของสถาบันหมายความว่านโยบายสาธารณะถูกกำหนดขึ้นจากสถาบันหลักของรัฐผู้วิเคราะห์ต้องทำความเข้าใจว่าในประเทศนั้นๆมีสถาบันใด บ้างเป็นสถาบันหลักสถาบันเหล่านี้มีหน้าที่อย่างไร ตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกาที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยระบบประธานาธิบดีสถาบันสำคัญมีสามฝ่ายคือฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ การศึกษาจากตัวแบบนี้จะดูว่าสถาบันของทั้งสามฝ่ายมีบทบาทเกี่ยวข้องกับนโยบายสาธารณะอย่างไรมีการตรวจสอบถ่วงดุลกันอย่างไรการนำตัวแบบสถาบันไปวิเคราะห์นโยบายสาธารณะใดก็ตามต้องหาคำตอบให้ได้ว่านโยบายนั้นมีสถาบันใดเข้าไปมีบทบาทในการกำหนดนโยบายสถาบันใดรับผิดชอบนำนโยบายนั้นไปปฏิบัติสถาบันใดทำหน้าที่บังคับใช้นโยบายในสังคมเช่นสภาผู้แทนราษฎรออก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหน่วยงานที่รับผิดชอบในการนำนโยบายไปปฏิบัติคือกรมการขนส่งกรมการประกันภัย หน่วยงานที่บังคับใ

Utopia - Heterotopias (มิติพื้นที่แบบยูโทเปีย - เฮเทอโรโทเปีย)

Utopia คือนัยของความสมบูรณ์ในอุดมคติ ส่วน Heterotopias คือพื้นที่ในสังคมที่ถูกทับซ้อนด้วยมิติปัญหาต่างๆในสังคมที่มีความสัมพันธ์ทั้งพื้นที่ว่างเเละสถานที่ที่อาจถูกใช้ทำให้เกิดพื้นที่ที่ไม่ปกติ (Other Spaces) เกิดขึ้น Utopia หรือ ยูโทเปีย เป็นการเล่นคำ outopia จากภาษากรีกที่แปลว่า “ไม่มีสถานที่ใดๆ หรือ No place” กับคำว่า Eutopia ที่แปลว่า “สถานที่ที่ดี หรือ good place” จึงทำให้เกิดความหมายที่ผสมผสานเเละได้นัยของความหมายว่า “Utopia จะเป็นสังคมที่สมบูรณ์แบบแต่มันก็ไม่มีทางไปจุดนั้นถึงได้” นั่นเพราะ...ได้มีการนำเสนอผ่านงานศิลปะและวรรณกรรมในรูปแบบที่มีนัยยะที่มีความหมายถึงว่า “เราไม่ต้องการที่จะนำเสนอภาวะสมบูรณ์หรือพื้นที่ที่เป็นอุดมคติแบบยูโทเปียที่เป็นจริงเพียงในจินตนาการ....เพราะว่า...พื้นที่ของนักเขียนและศิลปินจะเน้นระดับของความเป็นจริงแท้สูงมาก...นั่นจึงทำให้มีพื้นที่ว่างสำหรับความขัดแย้งและตรงกันข้ามกับความจริงอาศัยอยู่ในพื้นที่ว่างนั้นด้วย....เเละทำให้พื้นที่ว่างตรงนั้นมักจะมีแนวโน้มที่เดินคู่ขนานไปกับเส้นทางของสังคมที่มีอยู่จริง จึงทำให้อีกมุมมองนั้นทั้งในส่วนของงานวรรณกรรมและทา