กระบวนทัศน์ทางการวิจัยเชิงคุณภาพ (The qualitative research paradigm) เป็นมิติทางวิจัยเชิงคุณภาพที่ทำให้เกิดมุมมองใหม่ต่อชุดข้อมูลเดิมโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลเดิมแต่อย่างใด
มิติทางการวิจัยเชิงคุณภาพ
เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อพื้นฐานของการวิจัยเชิงคุณภาพที่ "ต้องการค้นหาความจริงด้วยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้จากภาพรวมที่หลากหลายมิติเเละมุมมอง"
มิติของอัตลักษณ์ที่ปรากฏการณ์ในงานวิจัย
เน้นการค้นหาความจริงทางสังคมที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความนึกคิดของมนุษย์
เช่น
อัตตวิสัย (Subjectivity) คือ มุมมอง/ความคิดเห็นของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก ความเชื่อส่วนตน (ตรงกันข้ามกับ ปรวิสัย/ปรนัย/วัตถุวิสัย) หรือ
ภววิสัย (Objectivity) คือ การยึดถือพื้นฐานอยู่บนข้อเท็จจริงเงื่อนไขที่เป็นความจริงเเละไม่ขึ้นอยู่กับจิตใจ
มิติในบทบาทของนักวิจัยต่อการวิจัยเชิงคุณภาพ
มุ่งพยายามทำความเข้าใจในประเด็นของความหมายในสิ่งที่เกิดโดยใช้การมองภาพรวม เเล้วจึงพัฒนาด้วยระบบความคิดมาสู่การสรุปความเข้าใจเป็นข้อมูลเชิงรูปธรรม
มิติของระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้
เพราะ วิธีเชิงคุณภาพ ทั้งการวิจัยเชิงชาติพันธุ์วรรณนา, ปรากฏการณ์วิทยา, กรณีศึกษา, วิจัยชีวประวัติบุคคล, วิจัยแบบสร้างทฤษฎีจากข้อมูลเเละวิจัยสนทนากลุ่ม
ต่าง....ด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อสร้างระบบแนวคิดให้เกิดความเข้าใจปรากฏการณ์นั้นก่อนนำแนวคิด/ทฤษฏีมาหาความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเเละผลให้มากขึ้นเพื่อคัดกรองข้อมูลที่หลากหลายให้เหมาะสมกับวิธีที่ดีที่สุด
มิติในการหาความน่าเชื่อถือ
ใช้ความน่าเชื่อถือมากกว่าความเที่ยงตรง (เชิงปริมาณ) ซึ่งนั่นหมายถึงการที่ตัวผู้วิจัยนั้นจะเกิดความรู้ความเข้าใจในข้อมูลมิติต่างๆอย่างถ่องเเท้ โดยอาจจะใช้แนวคิด/วิธีการ ที่หลากหลายตอบตรรกะด้านความสอดคล้องได้ โดยใช้การส่งถ่ายผลของการวิจัยด้วยแนวคิด ทฤษฏี ที่ได้จากการผ่านสถานการณ์ในงานวิจัยเพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงเเละวัดผลได้ว่ามากน้อยเพียงไร
.........................................