ตัวแปร (Variable) หมายถึง สิ่งที่เปลี่ยนค่าไปได้หลายค่าเป็นลักษณะคุณภาพคุณสมบัติของบุคคล/สิ่งของหรือสิ่งที่สนใจจะนำมาศึกษาที่สามารถนับได้ วัดได้ หรือหมายถึง สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปตามระยะเวลา แปรเปลี่ยนได้หลายค่า หรือมากกว่า 1
ลักษณะเช่น
เชื้อชาติ แปรค่าได้เป็น ไทย , จีน , ….
อายุ แปรค่าได้เป็น 1,2,3,……
ระดับความวิตกกังวล แปรค่าได้เป็น
ต่ำ, ปานกลาง, สูง
ตัวแปรตาม (dependent variable) เป็นตัวแปรที่มีผลมาจากตัวแปรต้น
ไป เช่น งานวิจัยเรื่อง
ตัวแปรภายนอก หรือตัวแปรแทรกซ้อน (extraneous variable) หมายถึง ตัวแปรอื่น ๆ
ตัวแปรต้นหลายตัว
และตัวแปรตามตัวเดียว
ระดับช่วงมาตรา (interval scale) เป็นระดับการวัดของตัวแปรที่สูงขึ้นมาจาก
2 ระดับที่กล่าวมาแล้ว
คือสามารถวัดรายละเอียดของคุณลักษณะที่แตกต่างกันของตัวแปรออกมาเป็นค่าตัวเลข
และตัวเลขนั้นมี คุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ คือ บวก ลบ คูณ หาร ได้
มีคุณสมบัติที่ระบุความแตกต่างได้ว่า มากกว่า หรือ น้อยกว่าเป็นเท่าไร
โดยคุณสมบัติพิเศษคือ ค่าของเลขศูนย์เป็นค่าที่กำหนดขึ้น
ไม่ได้เป็นค่าศูนย์ที่แท้จริง (relative zero) ยกตัวอย่างเช่น
ระดับอัตราส่วน (ratio scale) ถือเป็นการวัดระดับตัวแปรที่สูงที่สุด
มีคุณสมบัติครอบคลุมระดับการวัดใน 3 ระดับ สามารถวัดออกมาได้เป็นค่าตัวเลขซึ่งมีคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ทุกประการ
และนอกจากนี้ค่าของเลขศูนย์ เป็นค่าศูนย์ที่แท้จริง (absolute zero) คือหมายถึงไม่มีเลย
ชนิดของตัวแปร
แบบที่ 1 แบ่งเป็นตัวแปรต่อเนื่อง และตัวแปรไม่ต่อเนื่อง
ตัวแปรต่อเนื่อง (continuous variable) หมายถึง
ตัวแปรที่มีคุณลักษณะ หรือ
คุณสมบัติที่ต่อเนื่องกันระหว่างตัวแปรหนึ่งไปอีกตัวแปรหนึ่ง
ไม่สามารถแยกจากกันอย่างเด็ดขาด ตัวอย่างเช่น อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง และความรู้
ซึ่งมีค่าเป็นตัวเลขที่ต่อเนื่องกันไม่สามารถแยกจากกันได้
ตัวแปรขาดตอน
หรือตัวแปรไม่ต่อเนื่อง (discontinuous variable) หมายถึง ตัวแปรที่มีคุณลักษณะ
หรือคุณสมบัติแยกจากกันอย่างเด็ดขาดระหว่างตัวแปรหนึ่งไปยังตัวแปรอีกตัว หนึ่ง
และแต่ละตัวแปรไม่สามารถแยกออกเป็นเศษส่วนได้ต้องมีจำนวนเต็มเสมอ ตัวอย่างเช่น เพศ
(ชาย หญิง) ศาสนา (พุทธ คริสต์ อิสลาม) จำนวนบุตร (1, 2, 3)
แบบที่ 2 แบ่งเป็นตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรแทรกซ้อน
ตัวแปรต้น หรือตัวแปรอิสระ (independent variable) เป็นตัวแปรเหตุที่ทำให้ผลตามมา
หรือทำให้สิ่งที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วยเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะ หรือ แปรสภาพไป
เช่น งานวิจัยเรื่อง
ผลของน้ำผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน ตัวแปรต้น คือ น้ำผึ้ง
ตัวแปรต้น คือ
-
เป็นตัวแปรเหตุ
-
เป็นตัวแปรที่มาก่อน
-
เป็นตัวแปรที่จัดกระทำในการทดลอง
-
มีลักษณะเป็นตัวทำนาย
-
เป็นตัวกระตุ้น
-
มีความคงทน
ถาวร
ซึ่ง ผลของน้ำผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน ตัวแปรตาม คือ การหายของแผล
และตัวแปรตาม คือ
-
เป็นตัวแปรที่เป็นผล
-
เกิดขึ้นภายหลัง
-
เกิดขึ้นเองไม่สามารถจัดกระทำได้ในการทดลอง
-
เป็นตัวถูกทำนาย
-
เป็นตัวตอบสนอง
-
เปลี่ยนแปลงได้ง่าย
นอกเหนือจากตัวแปรต้น
ที่มีผลต่อตัวแปรตาม ซึ่งตัวแปรแทรกซ้อนนี้นักวิจัยต้องพยายามควบคุม
หรือขจัดอิทธิพลของตัวแปรแทรกซ้อนหรือตัวแปรภายนอกให้หมดไป หรือให้เหลือน้อยที่สุด
เช่น งานวิจัยเรื่อง
ผลของน้ำผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน ตัวแปรภายนอกได้แก่ ความลึกของแผล
อาหารที่ผู้ป่วย รับประทาน เป็นต้น
จำนวนและความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นและตัวแปรตาม
ตัวแปรต้น
1 ตัว และ ตัวแปรตาม 1 ตัว
ตัวอย่าง คือ
ความสัมพันธ์ระหว่างระยะเวลาการทำงานกับการเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงาน
ของ
คนงานโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง
ตัวแปรต้น
1 ตัว และตัวแปรตามหลายตัว
ตัวอย่าง คือ
ผลกระทบของการผ่าตัดทำหมันชายต่อการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ
และพฤติกรรมทางเพศ
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตายของทารก
ประสิทธิผลของการให้สุขศึกษาในงานสาธารณสุขมูลฐานโดยใช้หอกระจายข่าว
เปรียบเทียบกับที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน
ตัวแปรต้นหลายตัว
และตัวแปรตามหลายตัว
ตัวอย่าง
คือ
ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และเจตคติของผดุงครรภ์อนามัยกับการให้คำแนะนำ
เรื่อง
พฤติกรรมทางเพศสำหรับสตรีตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร
การวัดระดับของตัวแปร
เป็นการกำหนดความละเอียด
ความหยาบในการบอกความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติ ของตัวแปรที่อยู่ในหน่วยเดียวกัน
การวัดระดับของตัวแปรแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1. ระดับนามมาตรา (nominal
scale) เป็นระดับที่หยาบที่สุดสามารถบอกความแตกต่างในลักษณะของการแยกกลุ่ม
แยกเป็นประเภท หรือแยกเป็นพวกๆ เท่านั้น ไม่ได้บอกถึงความแตกต่างในแง่คุณค่าหรือคุณภาพแต่อย่างใด
ตัวอย่างเช่น
ตัวแปร
คุณลักษณะที่แสดงความแตกต่าง อาทิ
เพศ
เชื้อชาติ
ศาสนา
อาชีพ
สถานภาพสมรส
ภูมิลำเนา
ฐานะเศรษฐกิจ
การศึกษา
บริเวณที่ปวดหัว
อาการของโรค
กลุ่มเลือด ชาย หญิง
ไทย จีน ฯลฯ
พุทธ คริสต์ อิสลาม ฯลฯ
เกษตรกร ข้าราชการ ค้าขาย นักธุรกิจ ฯลฯ
คู่ โสด หม้าย หย่า แยก
ชนบท เมือง จังหวัด ฯลฯ
ดี ไม่ดี
ไม่มีการศึกษา มีการศึกษา
ด้านหน้า ด้านหลัง ทั่วหัว ท้ายทอย
รุนแรง ไม่รุนแรง
กลุ่มเลือด A B O และ AB
2. ระดับอันดับมาตรา
(ordinal scale) เป็นการวัดระดับตัวแปรที่ถือว่ามีคุณลักษณะที่แตกต่างสูงขึ้นมาจากระดับนามมาตราอีกเล็กน้อย
นั่นคือ สามารถบอกว่า มากกว่า น้อยกว่า ดีกว่า เลวกว่า สูงกว่า พอใจมากกว่า
พอใจน้อยกว่า แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถบอกได้ว่าลักษณะที่ มากกว่า น้อยกว่า
ดีกว่า นั้นมีค่าเท่าใด
ยกตัวอย่างเช่น
ตัวแปร คุณลักษณะที่แสดงความแตกต่าง
อันดับมาตรา ordinal ลดระดับเป็นนามมาตรา
nominal อาทิเช่น
ความคิดเห็น
ระดับการศึกษา
เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย
ไม่เห็นด้วยอย่างมาก
ไม่มีการศึกษา
ประถมศึกษา มัธยมศึกษา เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย
ได้รับการศึกษา
ไม่ได้รับการศึกษา
ตัวแปร คุณลักษณะที่แสดงความแตกต่าง
ช่วงมาตรา interval ลดระดับเป็นอันดับมาตรา
(ordinal) ลดระดับเป็นนามมาตรา (nominal)
ยกตัวอย่างเช่น
อุณหภูมิ
สติปัญญา(IQ)
คะแนนวิชาวิจัย
-10 องศา 0
องศา 1 องศา
50, 80, 100,120 12 , 15 , 25
, 50
ต่ำ ปกติสูง ฉลาดมาก
ปกติ ปัญญาอ่อน อ่อน ปานกลาง ดี
ดีมาก
ปกติ เป็นไข้ ปกติ ผิดปกติ ผ่าน ไม่ผ่าน
ตัวแปร คุณลักษณะที่แสดงความแตกต่างอัตราส่วนมาตรา
ratio ลดระดับเป็นอันดับมาตรา
ordinal ลดระดับเป็นนามมาตรา nominal
ยกตัวอย่างเช่น
อายุ
น้ำหนัก
ระดับคอเลสเตอรอล
1 ปี 2 ปี 5 ปี 13 ปี
10,
20, 35, 57 กิโลกรัม
72,
75, 91, 102
เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ สูงอายุ
น้อย ปกติ มาก
ต่ำ ปกติ สูง เด็ก ผู้ใหญ่
ปกติ ผิดปกติ หรือ
อ้วน ไม่อ้วน
ปกติ ไม่ปกติ
....................................................................